Miles Scott ตื่นขึ้นมาวันหนึ่ง พร้อมกับแต่งชุดเป็น Batman ตามความฝันในวัยเด็กของเขาที่จะได้เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ แต่สิ่งมันจะแตกต่างจากการที่เด็กคนหนึ่งจะแต่งตัวเป็น Batman เฉยๆ คือเมื่อเขาพบว่าชาวเมือง San Francisco ได้ร่วมกันทำให้เมืองกลายเป็น Gotham City เพื่อให้เขาได้ปฏิบัติภารกิจเป็น Batkid อย่างเต็มรูปแบบเพื่อต่อสู้กับเหล่าร้ายที่สร้างความปั่นป่วนให้กับเมือง
สิ่งที่ทำให้ Miles Scott ได้รับประสบการณ์ที่ต่างไปนั้นคือเขาเป็นเด็กชายอายุ 5 ขวบที่ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวมาตั้งแต่ถูกวินิจฉัยเมื่ออายุได้เพียง 20 เดือนโดยปัจจุบันอาการของเขาเข้าสู่ภาวะ “ทุเลาลง” ซึ่งเขาได้รับสิทธิ์ในการทำความฝันให้เป็นจริงด้วยมูลนิธิ Make-A-Wish ซึ่งเป็มูลนิธิที่มุ่งหวังจะบันดาลฝันที่เป็นจริงให้กับเด็กๆ ที่กำลังต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆ เพื่อสร้างความหวัง พลัง และความสุขให้กับพวกเขา โดยปัจจุบันมูลนิธินี้ได้สร้างความฝันกว่า 150,000 อย่างให้เป็นจริง และในปี 2013 นี้พวกเขาก็ได้รับ “ความฝัน” มากกว่า 230,000 อย่างจากเด็กๆ ทั่วโลก
และ Miles Scott เป็นหนึ่งในนั้น ที่บอกว่าเขาต้องการเป็น Batkid
หลังจากที่มูลนิธิ Make-A-Wish ที่สำนักงาน San Francisco ได้รับความฝันของ Miles แล้ว พวกเขาก็ได้ส่งอีเมล์ไปยังผู้คนต่างๆ ในเมืองโดยหวังเพียงว่าจะมีคนสักร้อยคนที่จะมาช่วยสร้างฝันให้กับ Miles แต่กลับกลายเป็นว่าในคืนก่อนที่จะมีการจัดงานจริงๆ นั้น ข้อมูลดังกล่าวถูกกระจายอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์โดยมีผู้แสดงความประสงค์ที่จะเข้าร่วมทำให้เกิด “Batkid Day” มากกว่า 12,000 คน
ในเช้าวันที่ Miles ได้แต่งชุดเป็น Batkid ตามความฝันของเขา เขาได้เห็นว่าช่องรายการทีวีในเมืองรายงานข่าววายร้ายอย่าง Penquin หรือ The Riddler กำลังสร้างความวุ่นวายให้กับเมือง และผู้บังคับการตำรวจของเมือง San Francisco กำลังขอความช่วยเหลือจาก Batkid เขาได้รับความช่วยเหลือจากนักแสดงที่สวมบทเป็น Batman พาเขาไปปฏิบัติภารกิจต่างๆ ทั่วเมืองตั้งแต่ช่วยตัวประกันที่ถูกลักพาตัว ปลดระเบิดเวลา ก่อนที่จะสุดท้ายได้รับมอบกุญแจเมืองจากนายกเทศมนตรีพร้อมกับเห็นว่าหนังสือพิมพ์ San Francisco Chronicle ออกฉบับพิเศษที่พาดหัวข่าวตัวเบ้อเริ่มว่า “Batkid Saves City” รวมทั้งมีวีดีโอขนาดสั้นบน Vine (Social Media สำหรับการแชร์วีดีโอขนาดสั้น) จาก Barack Obama
สิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งช่วยที่เปลี่ยนวันธรรมดาหนึ่งในเมือง San Francisco ให้กลายเป็นวันสุดพิเศษและแสดงความดีงามของจิตใจมนุษย์ได้อย่างน่าอัศจรรย์คือโลกออนไลน์ที่มีส่วนสำคัญในการแพร่กระจายข่าวสารของ Batkid Day ออกไปอย่างรวดเร็ว ในวันงานมีการรายงานข่าวทั้งภาพและวีดีโอจากสื่อท้องถิ่นและสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Fox News The Guardian Yahoo News Mashable และอื่นๆ อีกมากมาย มีการประเมินว่าในวันดังกล่าวซึ่งใช้ #batkid หรือ #SFBatkid เพื่ออัพเดทเรื่องราวโดยเหล่าชาวเมือง San Francisco นั้น สร้างการพูดถึงไปในกว่า 117 ประเทศ เข้าถึงคนหลายร้อยล้านคนที่กำลังเฝ้ารอติดตามผ่านทางหน้า Timeline มีการถ่ายภาพ Instagram มากกว่า 21,000 รูป รวมทั้งการเขียนบล็อก บทความ หรือการโพสต์เรื่องราวบนโลกออนไลน์ที่มีคนอ่านมากกว่า 2.5 ล้านครั้ง
หนึ่งในสิ่งที่เรามักพบว่าโลกออนไลน์สามารถดึงคนมาร่วมกันได้มากก็คือ “ความดี” หรือการทำสิ่งที่ถูกต้อง ดังที่เราจะเห็นได้จากเหตุการณ์มากมายที่มีการรณรงค์บนโลกออนไลน์และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เหตุกาณ์ของ Batkid Day ก็คงไม่ต่างกันที่มันสามารถพาคนจำนวนมากพร้อมใจกันสร้างวันพิเศษเพื่อมอบความหวังให้กับเด็กคนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดูจะพิเศษสำหรับการทำแคมเปญที่พูดถึง “ความดีงาม” ครั้งนี้คือการที่มันก้าวข้ามขอบเขตเดิมๆ อย่างที่มูลนิธิ Make-A-Wish คาดหวังไว้ (อย่างที่ตอนแรกพวกเขาคาดว่าจะมีคนมาร่วมแค่หลักร้อยคนเท่านั้น) ซึ่งถ้าเราวิเคราะห์กันแล้ว ส่วนผสมสำคัญที่ทำให้ Batkid Day ประสบความสำเร็จอย่างมากคือตัวความฝันของ Miles นั่นเอง
จริงอยู่ว่าความฝันของเด็กเป็นสิ่งงดงามและหลายๆ คนก็คงอยากช่วยเให้เป็นจริง แต่ความฝันของ Miles มีความ “ต่าง” ไปจากฝันทั่วๆ ไป (ซึ่งเรามักนึกทำนองว่า “ได้เจอคนดัง” “ได้ไปที่นั่นสักครั้งในชีวิต” ฯลฯ) ความฝันที่อยากเป็น Batkid ของเขาไม่ใช่แค่การสร้างความฝันของ Miles อย่างเดียว แต่ยังจุดต่อไปยังความฝันของคนอื่นๆ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ที่มีความทรงจำเกี่ยวกับ Superhero มาตั้งแต่เด็ก และมันคงดีไม่น้อยถ้าพวกเขาจะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความฝันอันยิ่งใหญ่นี้ในทางใดก็ทางหนึ่ง
นอกจากนั้น เมื่อความฝันดังกล่าวมีแรงพลักที่ดีแล้ว สิ่งที่ช่วยเสริมตามมาคือแรงส่งต่อด้วยโลกออนไลน์ที่ทำให้สารต่างๆ กระจายไปได้เร็วกว่าที่มันเคยเป็น และเมื่อคนต่างๆ เห็นความฝันของ Miles มากขึ้นก็ยิ่งดึงคนหมู่มากเข้ามร่วมได้อีก ซึ่งสุดท้าย Batkid Day ก็กลายเป็นข่าวดังทั้งสื่อใหญ่และสื่ออนไลน์ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ความสุข ความหวัง และความฝัน คงเป็นสิ่งที่หลายๆ คนปรารถนาจะให้เกิดขึ้นบนโลกนี้ และเมื่อมีเหตุการณ์ใดบางอย่างเกิดขึ้น คงไม่แปลกที่เราจะอยากบอกต่อ ส่งต่อให้ผู้อื่น เพื่อพวกเขาได้รับรู้ความสุขแบบเดียวกัน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกอะไรที่เรื่องราวของ Miles และ Batkid จะเป็นการสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งบนโลกออนไลน์
ซึ่งทำให้เรารู้สึกได้ว่า “โลกเราก็ยังมีความหวัง” นะ