ในประสบการณ์ส่วนตัว ผมเจอกับหลายเหตุการณ์ที่ต้องเจอกับคนที่บอกตัวเองว่าประสบความสำเร็จ หรือมีหน้าที่การงานสูงแต่กลับใช้ความสูงส่งนั้นกดผู้อื่น บ้างก็เอาเปรียบผู้ที่อยู่ต่ำกว่าเพียงเพื่อตัวเองจะได้ยืนอยู่บนสิ่งที่เรียกว่า “ความสำเร็จ”
มันก็อาจจะเป็นเรื่องปรกติสำหรับคนบางคนที่กระหายสิ่งที่เรียกว่าความสำเร็จ มองว่าเป้าหมายสูงสุดของตัวเองคือการได้ถึงยอดเขา อยู่ในจุดที่ทุกคนต้องมองแหงนหน้าขึ้นไปหา หรือการได้อยู่ในวงสังคมที่ตัวเองต้องการ
แต่นั่นคือความสำเร็จที่น่าชื่นชมจริงๆหรือ?
ความสำเร็จนั้นจะมีค่าอะไรหากมิตรที่เคยเดินร่วมทางมาด้วยต้องเบือนหน้าหนีไป ตำแหน่งที่สูงส่งจะน่านับถือไหมถ้ามีแต่คนสบประมาทลับหลังและไม่มีใครมองเห็นค่าของตำแหน่งที่อยู่บนนามบัตร
บางทีเรื่องนี้เป็นคำถามที่แต่ละคนคงตอบไปคนละทาง ไม่มีคำตอบแน่ชัดนัก
แต่สำหรับผม ความสำเร็จจะมีค่าอะไรหากมันเป็นความสำเร็จที่สร้างขึ้นจากการเอาเปรียบและเหยียบย่ำผู้อื่น เพราะนั่นทำให้ความสำเร็จเป็นเพียงนามธรรมลอยๆ ประดับตัวไว้ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
วันที่เราไม่มีงาน ไม่มีตำแหน่งใหญ่โตอีกต่อไป เราก็ไม่มีตัวตนอะไรอีกต่อไปสำหรับคนที่เคยอยู่ใต้เรา
เจ้านายผู้ไม่เป็นที่รักของลูกน้องก็คงเป็นคนไม่มีค่าและไม่ต้องได้รับการเคารพนับถืออีกต่อไป
ผู้บริหารตัวร้ายก็กลายเป็นตาแก่คนหนึ่งที่ไม่มีใครสนใจ
คนดังกลายเป็นคนไม่ดัง และไม่มีใครรู้จัก
จะดีกว่าไหมถ้าระหว่างการสร้างความสำเร็จนั้น เราได้สร้างมิตรภาพและทำให้คนรอบข้างเราชื่นชมไปด้วย ทำให้เรามีกัลยามิตรที่เดินเคียงข้างเราไปจนถึงความสำเร็จ ให้เพื่อนร่วมงานกลายเป็นเพื่อนในชีวิตจริง แม้ว่าจะแยกย้ายกันไปก็ยังเป็นมิตรกัน ให้วันที่เราไม่มีหัวโขนก็ยังสามารถมีตัวตนกับคนรอบข้างได้
ยอดเขาจะมีค่าอะไรถ้าเราไปถึงโดยไม่เหลือใครชื่นชมในการขึ้นไปถึง
ปลายทางจะมีค่าอะไรถ้าเราเดินไปถึงโดยไร้เพื่อนร่วมทาง
บางครั้งความสำเร็จไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเราเพียงคนเดียว การแบ่งปันความสุขจากความสำเร็จให้คนรอบข้างก็ทำให้เรามีอะไรมากกว่าความสำเร็จที่อยู่ตรงหน้า
เพราะมันทำให้ความสำเร็จของเรางดงามขึ้นจากเดิมอีกมากโขเลยทีเดียว