เราเฉยชากับความรุนแรงตรงหน้าแค่ไหน?
ในต่างประเทศนั้น การ Bully หรือการกลั่นแกล้ง/ทำร้ายกันนั้นเป็นเรื่องใหญ่จนกลายเป็นประเด็นระดับประเทศมาแล้วในสหรัฐอเมริกา ซึ่งน่าสนใจมากกับประเทศที่มีเสรีภาพมาก็ต้องลงมาจัดการการใช้เสรีภาพแบบผิดๆ จนทำร้ายคนอื่น นอกจากนี้แล้ว พอประเด็นเรื่องนี้ถูกยกขึ้นมาพูดอย่างจริงจังมันก็ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าคนทุกวันนี้เห็นปัญหานี้อย่างไร และเราเพิกเฉยกับสถานการณ์ตรงหน้าเราแค่ไหนกัน
The Bullying Experiment เป็นแคมเปญที่ลองทดสอบว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ Bully ตรงหน้าคนทั่วไปแล้ว จะมีสักกี่คนที่ลุกขึ้นมาช่วย หรือเข้าไปขัดขวาง ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนเองก็เดินหนี หรือหลบเพราะไม่อยากเข้าไปยุ่ง และนั่นก็อาจจะเป็นสิ่งที่เราคุ้นตากันบ่อยในโลกของความจริง
อย่างที่หลายๆ คนบอกแหละครับ ว่าอุดมการณ์หรือความคิดเวลาพูดบนเวทีมันดูดีฮะ ว่าเราต้องยับยั้งและช่วยเหลือไม่ให้สังคมเกิดการกลั่นแกล้ง ทำอย่างไรที่จะปกป้องคนในสังคม แต่พอมันเกิดขึ้นจริงแล้วหลายๆ คนก็โดน “ความกล้ว” เข้าครอบงำจนทำให้ต้องหลบหลีกและไม่ได้ช่วยเหลืออย่างที่เราคิดกัน

ที่พูดมาไม่ใช่ว่าผมเองจะต่างไปหรอกนะครับ ผมเองในชีวิตจริงก็มีหลายๆ ครั้งที่กลัวจนต้องเดินผ่านไป ไม่อยากมีเรื่อง ด้วยความกลัวภัยกับตัวเองหรือคนรอบข้าง เช่นเดียวกับคนในคลิป The Bullyinh Experiment ซึ่งผมว่าคนทำเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีหรือประจานอะไรหรอก
สิ่งสำคัญคือหลังจากที่เราดูคลิปนี้แล้ว มันกระตุ้นให้เรากลับมาคิดว่าเราจะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกหรือไม่ หากครั้งต่อไปมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นตรงหน้าอีก เราจะทำอย่างไร
นั่นแหละฮะ ผมว่าคือสิ่งที่เราต้องคิดต่อไปหลังจากดูคลิป