top of page

Strategic Fit: ทำไมการวางกลยุทธ์ต้องเป็นระบบที่เชื่อมโยงกัน



ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแข่งขันไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ที่ดีหรือการตลาดที่แข็งแกร่งอีกต่อไป แต่องค์กรที่ประสบความสำเร็จมักเป็นองค์กรที่มี "Strategic Fit" หรือความสอดคล้องทางกลยุทธ์ที่ดีระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ ภายในบริษัท หลักการนี้เน้นว่ากลยุทธ์ต้องเป็นระบบที่เชื่อมโยงกัน ไม่ใช่แค่การตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลขหรือการทำแผนธุรกิจแยกส่วน


📍Strategic Fit คืออะไร?


Strategic Fit หมายถึงระดับของความสอดคล้องและการเสริมพลังซึ่งกันและกันขององค์ประกอบภายในระบบธุรกิจ เช่น เป้าหมายองค์กร วัฒนธรรมองค์กร การบริหารทรัพยากรบุคคล กระบวนการทางธุรกิจ และกลยุทธ์ด้านตลาด เมื่อองค์ประกอบเหล่านี้ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน จะช่วยให้องค์กรสามารถใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มที่เหนือกว่าคู่แข่ง


📍ทำไม Strategic Fit จึงสำคัญ?


1. สร้างผลลัพธ์แบบทวีคูณ (Synergistic Effect)

เมื่อทุกองค์ประกอบในองค์กรทำงานร่วมกันอย่างสอดคล้อง จะเกิดผลลัพธ์ที่ใหญ่กว่าผลรวมของแต่ละส่วน ตัวอย่างเช่น พนักงานที่เข้าใจวัตถุประสงค์ขององค์กรจะสามารถให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น ซึ่งนำไปสู่ความพึงพอใจของลูกค้า และช่วยเพิ่มรายได้โดยรวมของบริษัท


2. ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (Competitive Advantage)

องค์กรที่มีกลยุทธ์ที่สอดคล้องกันสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถรักษาหรือขยายความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมได้


3. ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency & Cost Reduction)

เมื่อองค์กรมีการจัดการที่สอดคล้องกัน กระบวนการทำงานจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดความซ้ำซ้อน ลดต้นทุน และเพิ่มผลกำไร


4. ลดความขัดแย้งภายในองค์กร (Minimizing Internal Conflicts)

หากแต่ละหน่วยงานมีเป้าหมายและแนวทางปฏิบัติที่ขัดแย้งกันเอง องค์กรจะเสียเวลาไปกับการจัดการความขัดแย้ง แต่หากมี Strategic Fit ที่ดี ทุกแผนกจะสามารถทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น


📍องค์ประกอบสำคัญของ Strategic Fit


1. Mental Model (กรอบความคิดในการดำเนินธุรกิจ)

ผู้นำองค์กรต้องเข้าใจโครงสร้างของธุรกิจและวิธีการสร้างมูลค่าให้กับตลาด ต้องมองเห็นภาพรวม ไม่ใช่แค่เพียงตัวเลขทางการเงิน


2. Purpose & Ambitions (เป้าหมายและความทะเยอทะยานขององค์กร)

การกำหนดเป้าหมายต้องชัดเจนและเชื่อมโยงกับการดำเนินงานในทุกระดับ ไม่ใช่แค่การตั้งเป้าหมายทางการเงิน แต่รวมถึงคุณค่าที่องค์กรต้องการสร้างให้กับลูกค้าและพนักงาน


3. Stakeholder Value Creation (การสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสีย)

องค์กรต้องพิจารณาการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า พนักงาน นักลงทุน และชุมชน โดยทุกฝ่ายต้องได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่ใช่แค่การทำกำไรระยะสั้น


4. Macro Forces (ปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ)

การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสังคมสามารถส่งผลต่อองค์กรได้ องค์กรที่มี Strategic Fit จะสามารถปรับตัวเข้ากับปัจจัยเหล่านี้ได้ดี


5. Markets & Products (ตลาดและผลิตภัณฑ์)

การเลือกตลาดและผลิตภัณฑ์ต้องมีความเชื่อมโยงกับกลยุทธ์โดยรวมของบริษัท ไม่ใช่เพียงแค่การไล่ตามกระแสตลาดโดยไม่มีแนวทางที่ชัดเจน


6. Competitive Advantages (ความได้เปรียบในการแข่งขัน)

การสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งต้องมีรากฐานที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการที่เหนือกว่า เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า หรือวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง


Strategic Fit เป็นแนวคิดที่ช่วยให้องค์กรดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถแข่งขันได้ในระยะยาว องค์กรที่มีการวางกลยุทธ์แบบเชื่อมโยงกันจะสามารถสร้างมูลค่าที่เหนือกว่า ลดความขัดแย้งภายใน และเพิ่มศักยภาพในการเติบโต ดังนั้น การมองกลยุทธ์เป็นระบบที่เชื่อมโยงกันจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทุกองค์กรควรให้ความสำคัญ


แปลและเรียบเรียงจาก The Power of Strategic Fit ของ HBR

Comments


Me_Potrait.jpg

Nuttaputch Wongreanthong

An experienced marketer with a passion for understanding and exploring the latest trends

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Instagram

Subscribe

Thanks for submitting!

©2035 by Jeff Sherman. Powered and secured by Wix

bottom of page