กรอก Framework ครบ ก็ไม่ได้แปลว่าเข้าไจได้อย่างถูกต้อง

เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับบรรดา Canvas หรือ Framework ต่าง ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยในการทำ Workshop หรือเอามาพรีเซ้นท์ในงานสัมมนาต่าง ๆ เพื่ออธิบายคอนเซปต์การทำงาน เช่น Business Model Canvas, Value Proposition Canvas เพราะสิ่งเหล่านี้กลายเป็นของที่นักคิดนักเขียนพยายามสร้างขึ้นมาช่วยให้คนทำงานสามารถทำงานต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น

อย่างที่ dots academy เองนั้น ผมก็มีการสร้าง Framework ต่าง ๆ มามากกว่า 100 แบบสำหรับทำเรื่องต่าง ๆ เช่น Customer Persona, Feature & Benefit Matching, Content Marketing Strategy ฯลฯ เพราะเราหยิบมาให้ผู้เรียนได้ใช้ทำ Workshop ในคลาสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Thinking Skill, Marketing Strategy หรือ Content Marketing

แต่สิ่งที่ผมกับพาร์ทเนอร์จะพูดกันบ่อย ๆ คือจุดประสงค์สำคัญในการมี Framework เหล่านี้ ไม่ใช่การพยายามให้ผู้ใช้งานพยายามกรอกให้เต็มหรือกรอกให้เยอะ เพราะหากสิ่งที่กรอกลงไปนั้น "ไม่ร้อยต่อความคิด" ให้กระจ่างแล้ว ก็จะกลายเป็นการกรอกแบบให้ครบ ๆ ไปเท่านั้น แถมอาจจะทำให้ธุรกิจเข้าใจผิดไปด้วยอีกต่างหาก

เรื่องนี้จะเห็นได้จากบรรดา Framework อย่างเช่น Business Model Canvas ที่ไม่ได้จำเป็นต้องกรอกให้เยอะจนดูเหมือน Business เรามีอะไรเยอะมาก ๆ หากแต่ควรกรอกอันที่ใช่และจำเป็น โดยร้อยต่อเรื่องราวของธุรกิจออกมาอย่างชัดเจนว่ามันขับเคลื่อนด้วยอะไรบ้าง ซึ่งก็จะเป็นแบบเดียวกับโมเดลอื่น ๆ ที่ผมมักพูดถึงอย่าง Customer Persona ว่าต่อให้กรอกเยอะไปหมด แต่หากมันไม่นำไปสู่การเข้าใจลูกค้าที่เอื้อประโยชน์ต่อการทำการตลาดของคุณแล้ว ตัว Framework นี้ก็ไม่มีประโยชน์อันใด

ฉะนั้นแล้ว สิ่งที่นักการตลาดพึงเข้าใจไว้เสมอคือบรรดา Framework ต่าง ๆ นั้นไม่ไว้เป็น "ไกด์" ช่วยให้เราเห็นขั้นตอนหรือหัวข้อสำคัญที่ต้องคิด แต่สิ่งสำคัญกว่าคือการเห็นแก่นสำคัญจริง ๆ ว่าสิ่งนั้นคืออะไร นำไปสู่อะไร และโฟกัสกับสิ่งนั้นเป็นสำคัญนั่นเองล่ะครับ