top of page

การตลาดกับ Social Media จะเป็นอย่างไรต่อไป (ถ้ามองจากวันนี้)

ชื่อบล็อกวันนี้เป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาระหว่างที่ผมประชุมกับทีมวันนี้ ซึ่งจะว่าไปมันก็เป็นคำถามที่ผมว่าผู้บริหารหลายคนรวมทั้งคนทำงานการตลาดก็ถามกันบ่อยๆ เหมือนกัน (เอาจริงๆ ผมโดนถามเรื่องนี้บ่อยทีเดียว) ผมเลยขอเรียบเรียงแง่คิดบางอย่างมาเล่าสู้กันฟังแล้วกัน

แต่บอกก่อนนะครับ อันนี้เป็นมุมมองส่วนตัวของผม ณ วันนี้ ซึ่งอนาคตเราคงอาจจะเปลี่ยนคำตอบก็ได้

1. Social Media ไม่ใช่เรื่องเด็กๆ อีกต่อไป

ช่วงหลายปีก่อนหลายคนอาจจะตั้งคำถามกันว่า Social Media จะจริงจังแค่ไหน จะเป็นแค่กระแสขำๆ บนโลกออนไลน์หรือเปล่า แต่ทุกวันนี้บรรดา Social Media ที่เราใช้งานกันทุกวันคงเป็นบทพิสูจน์อย่างดีแล้วว่ามันกลายเป็นรากฐานของการสื่อสารในปัจจุบันอย่างไม่ต้องสงสัยและกลายเป็นช่องทางการติดต่อกับผู้บริโภคยุคปัจจุบันเสียอย่างขาดไม่ได้ ต่อให้วันพรุ่งนี้ Facebook ปิดไป ยังไงคนดิจิทัลก็จะยังคุ้นเคยกับการแชร์ข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์อยู่ดี และนับวันเราก็จะใช้ Social Media มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอีกต่างหาก

2. Facebook คือตัวพ่อ YouTube LINE Instagram มองข้ามไม่ได้

แม้ว่าจะโดนคนบ่นแค่ไหน จะโดนกด Reach กันยังไง แต่เชื่อเถอะครับว่า Facebook ก็ยังเป็นช่องทางหลักของคนออนไลน์ทุกวันนี้ที่ใช้เวลากับมันมากสุดๆ ในเรื่องการอัพเดทข่าวสารต่างๆ ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่มันจะเป็นที่แรกๆ ที่เรานึกถึงเมื่อต้องหาวิธีการพูดคุยและสร้างประสบการณ์กับกลุ่มเป้าหมายของเรา ส่วน YouTube ก็ยังคงเป็นช่องทางหลักสำหรับคอนเทนต์ประเภท Video ที่คงยากจะมีอะไรมาโค่นลงได้ในขณะที่ LINE เองก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมบนมือถือที่เข้าถึงคนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว

Platform เหล่านี้เองน่าจะเป็น Platform หลักๆ ที่คนทำงานการตลาดทุกวันนี้มองข้ามไม่ได้เพราะมันคือพื้นที่สำคัญที่ผู้บริโภคปัจจุบันใช้เวลาอยู่กับมันเป็นสำคัญและเราต้องหาวิธีในการเข้าไปอยู่ตรงนั้นเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้ได้

3. หมดยุคแอพ Facebook ต่างๆ และก้าวสู่การทำคอนเทนต์เต็มรูปแบบ

เราอาจจะคุ้นเคยกับยุคการปั่นไลค์และทำกิจกรรมผ่าน Facebook App มากมาย แต่ทุกวันนี้หลายๆ คนจะเริ่มเก็ตกันแล้วว่า Social Media อย่าง Facebook หรือ YouTube นั้นจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยหากขาดคอนเทนต์ที่ใช้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้การทำคอนเทนต์บน Social Media เองก็ไม่สามารถใช้วิธีคิดแบบเดียวกับที่เราเคยทำกันมาแบบ Traditaional Marketing / Advertising ด้วย

พอเป็นเช่นนี้ มันเลยเป็นที่มาของการคิดแบบ Content Marketing (และเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงบูมมากในวันนี้นั่นแหละ) เพราะต่อให้มี Fan มากมายแต่ถ้าพวกเขาไม่สนใจใยดีกับคอนเทนต์ของเรา หรือคอนเทนต์ของเราไม่สามารถทำมีผลกับพวกเขาได้ มันก็จะกลายเป็นว่า Network ต่างๆ สร้างกันมานั้นอาจจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย

ส่วนบรรดา Facebook App อะไรนั้น ต้องเรียกว่าแทบจะหายไปจากหน้า News Feed กันแล้ว ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรเพราะเดี๋ยวนี้ผู้บริโภคเองก็รู้ทันเกมการตลาดของแบรนด์มากขึ้นเรื่อยๆ และพวกเขาก็เริ่มจะทำการ “เก็บกวด” ช่องทางของพวกเขาให้เหลือแต่สิ่งที่พวกเขาต้องการเท่านั้นนั่นแหละ

4. อนาคต Social Media กับ Big Data

เอาจริงๆ เท่าที่ผมอ่านและติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ นั้น เรื่องของ Social Media Marketing หรือแม้แต่ Content Marketing ก็เป็นเรื่องที่เกือบจะเอ้าท์ไปแล้ว เพราะตอนนี้ในการตลาดดิจิทัลสเกลใหญ่ๆ เขาไปถึงเรื่อง Data Optimization / Omni Channel กันแล้ว นั่นคือการใช้โครงสร้างของข้อมูลมหาศาลที่เกิดขึ้นบน Social Media และพฤติกรรมออนไลน์ต่างๆ มาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดทางด้านการตลาด เช่นการทำ Programatic Advertising หรือการทำ Big Data เข้ากับระบบ CRM ของบริษัท ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่า Data สำคัญๆ ก็มาจากการใช้งาน Social Media เนี่ยแหละ โดยนั่นอาจจะเป็นจุดที่เราเข้าสู่การทำ Personalization ทางการตลาดอย่างจริงจัง (และนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้นักการตลาดที่เคยทำแต่ Mass Communication อาจจะอึ้งๆ กันเลยก็ว่าได้)

4 เรื่องข้างบนเป็นข้อคิดข้างต้นที่ผมลองคิดเร็วๆ และตอบกับทีมในที่ประชุมวันนี้ อันที่จริงมันก็ยังมีประเด็นอื่นๆ อีกมากมายที่น่าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกกับ Social Media ใน 3-4 ปีข้างหน้า

แต่ที่แน่ๆ มันเป็นสิ่งที่นักการตลาดวันนี้ต้องเรียนรู้โดยขาดไม่ได้แล้วล่ะครับ

Me_Potrait.jpg

Nuttaputch Wongreanthong

An experienced marketer with a passion for understanding and exploring the latest trends

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Instagram

Subscribe

Thanks for submitting!

bottom of page