Brand Advocacy สำคัญไฉน แล้วทำไมธุรกิจของคุณถึงจำเป็นต้องมีพวกเขา [Infographic]
ช่วงหลังๆ ที่ผมบรรยายเรื่อง Digital Marketing นั้น คำพูดที่ผมมักได้ยินบ่อยๆ คือเรื่องของ Influencer Marketing เพราะถูกมองว่าเป็นเทรนด์ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมาหลังจากคนทั่วๆ ไปลุกขึ้นมากลายเป็นคนดังบนโลกออนไลน์ไป อย่างไรก็ตาม พอผมยกกลุ่มคนอีกประเภทหนึ่งขึ้นมา นั่นคือ Brand Advocate (หรือบางทีก็เรียก Brand Advocacy) แล้วถามผู้ฟังถึงความแตกต่างระหว่างสองกลุ่มนี้ น่าสนใจไม่น้อยที่หลายคนแทบไม่ได้สนใจ Brand Adovcate และแยกไม่ออกว่าต่างกันอย่างไร
จะว่าไปแล้ว มันก็คงไม่แปลกอะไรที่ Influencer น่าจะเป็นสิ่งที่คุ้นตากัน เพราะเห็นกันได้ง่าย (ส่วนหนึ่งเพราะคนเหล่านี้เป็นคนดังอยู่แล้ว) ในขณะที่ Brand Advocate นั้นมีผสมกันไปทั้งคนดังบ้างและคนธรรมดาบ้าง แต่ที่น่าจะเป็นจุดเด่นของคนกลุ่มนี้คือการเป็น “กองเชียร์” ให้กับแบรนด์ที่ตัวเองรักโดยที่แบรนด์ไม่ต้องออกเงินเพื่อทำการว่าจ้างให้ช่วยโปรโมตสินค้าหรือบริการแต่อย่างใด ซึ่งนี่ต่างจากรูปแบบของ Influencer ที่นับวันก็จะเข้าโหมดของการเป็น Presenter หรือไม่ก็เป็น Paid-Infelucner เข้าไปทุกที (ลองอ่านบล็อกนี้เพื่อดูความแตกต่างระหว่างสองกลุ่มนี้ได้ครับ)
ด้วยเหตุนี้ Brand Advocacy จึงเริ่มกลายเป็นที่พูดถึงมากขึ้นว่าทำอย่างไร แบรนด์ถึงจะสามารถสร้างคนกลุ่มนี้ขึ้นมาได้ เพราะในโลกออนไลน์นั้น ความสามารถในการแนะนำและบอกต่อของคนเหล่านี้ยิ่งมีประสิทธิภาพมากกว่ายุคออฟไลน์อยู่มากโข ดังเช่นที่ Ciceron ซึ่งเป็นเอเยนซี่ที่ให้บริการในการวางแผนทำ Brand Advocacy ได้ทำ Infographic อธิบายไว้
จาก Infographic ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าด้วยพฤติกรรมของคนออนไลน์ที่เปลี่ยนไป การเชื่อและเสพข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งการแนะนำและบอกต่อของบรรดา Brand Advocates นี่เองที่จะช่วยสร้างการพบเห็นจากบรรดาคนที่อยู่ในเครือข่ายของพวกเขาและสร้างแรงโน้มน้าวให้อีกฝั่งรู้สึกเชื่อและคล้อยตามที่จะตัดสินใจใช้สินค้าต่างๆ มากขึ้นด้วย
ฉะนั้น เกมการสื่อสารการตลาดในอนาคตจึงไม่น่าจะใช่แค่การหวังพึ่ง “คนดัง” ช่วยปั่นกระแสประเภทโยนหินก้อนใหญ่ลงน้ำเพียงอย่างเดียว แต่คงจำเป็นต้องหาทางสร้างหินก้อนเล็กก้อนน้อย แต่ช่วยสร้างแรงกระเพื่อมอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือพวกเขาไม่ได้อยู่ในโหมดที่ “รับจ้าง” แต่อย่างใด
