top of page

ข้อผิดพลาดใน Resumeที่อาจจะทำให้คุณพลาดงานที่อยากจะทำได้ง่าย ๆ


resume

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น ผมได้เปิดรับสมัครงานที่ dots academy และทำให้ต้องผ่านตากับ Resume จำนวนไม่น้อยอีกครั้งนับจากที่เคยต้องทำแบบเดียวกันเมื่อครั้งยังทำงานเป็นผู้บริหารในบริษัทเอกชน แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าใดนั้น ผมก็ยังพบว่าปัญหาของผู้สมัครหลายคนคือ "สอบตกตั้งแต่ Resume" ซึ่งทั้งหมดนี้ก็มีตั้งแต่ประเด็นสำคัญ เนื้อหา จนไปถึงรายละเอียดบางอย่างที่คนอาจจะมองข้าม เลยขอหยิบจุดต่าง ๆ ที่คิดว่าคนสมัครงานควรจะทราบและพิถีพิถันมากขึ้นนะครับ


1. รูปภาพผู้สมัคร

การมีรูปภาพใน Resume ย่อมมีส่วนในการทำให้บริษัทรู้จักผู้สมัครมากขึ้น แต่ดูเหมือนหลายคนอาจจะไม่ทันคิดว่ารูปที่ควรเอามาใช้นั้นควรจะเป็นรูปที่ดูเป็นคนทำงานมืออาชีพ ไม่ใช่จะเป็นรูปอะไรก็ได้ บ้างก็จะใช้รูปที่ทำให้ดูบุคลิกไม่ดี ดูไม่น่าสนใจเสียอย่างนั้น ซึ่งที่ผ่านมาผมก็จะเจอรูปภาพผู้สมัครหลายแบบที่ชวนอึ้งอยู่เหมือนกันเช่น ใช้รูปไปรเวทเต็มที่ ใส่ชุดฟรีสไตล์สุด ๆ บ้างก็เอารูปตอนไปเที่ยว ไป Outing มาใช้ นั่นทำให้ Resume ดูกลายเป็นเรื่องสนุกมากกว่าเรื่องจริงจัง ซึ่งแบบนี้ก็ทำให้ผู้ดูใบสมัครบางคนมองว่าไม่สุภาพ ไม่รู้จักกาลเทศะ ยิ่งถ้าไปสมัครงานตำแหน่งที่ต้องดูแลลูกค้า อาศัยมารยาททางธุรกิจ ความเป็นมืออาชีพ ก็เรียกว่าสอบตกกันตั้งแต่ยังไม่ต้องคุยเลยนั่นเอง


สิ่งที่ควรจะเป็น ควรจะใช้รูปที่ถ่ายในบริบทของการทำงานเป็นมืออาชีพ เช่นใส่ชุดสุภาพ ดูภูมิฐาน ไม่จำเป็นต้องหน้าตรง แต่ให้ดูมีภาพลักษณ์ที่ดี สอดคล้องกับงานที่สมัคร คิดเสียว่ารูปภาพคือความประทับใจแรกของผู้จ้าง ถ้าเห็นแล้วรู้สึกว่าเราไม่เป็นมืออาชีพ ก็คงยากที่จะเรียกไปทำงานด้วย


2. อีเมล์ติดต่อ

นอกจากรูปภาพที่ใช้สมัครงานแล้วนั้น อีเมลติดต่อก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งมันคงดูไม่เข้าทีมากหากอีเมลที่เอามาใช้ติดต่อนั้นคือ iamhotgirls@gmail.com หรือ fahloveyou@gmail.com ทั้งนี้บางคนอาจจะมองว่าเรื่องเล็กน้อยแต่ก็นั่นเองที่ผู้ว่าจ้างหลายคนมองว่ามันคือรายละเอียดและมารยาทในการประสานงาน มันจึงเป็นเรื่องที่ควรใช้อีเมลที่ดูสุภาพ เป็นมืออาชีพในการใช้ติดต่อประสานงานมากกว่าใช้อีเมลที่ดูขำขัน เอาไว้เล่นกันแบบส่วนตัว


สิ่งที่ควรจะเป็น สมัครอีเมลสำหรับใช้สมัครงานโดยเฉพาะ เช่น ใช้ชื่อจริง-ตัวย่อนามสกุล เพื่อให้ดูมีความเป็นมืออาชีพ ใช้อีเมลที่มีความเป็นทางการ


3. ไม่ปรับให้เหมาะกับตำแหน่ง

เมื่อเราจะสมัครงานตำแหน่งอะไร ก็ควรจะปรับ Resume ของเราให้ใกล้เคียงกับความต้องการที่อยู่ในตำแหน่งนั้น อย่าใช้วิธีการใช้ Resume เดียวส่งให้กับทุกตำแหน่งแล้วบอกอะไรกลาง ๆ เพราะแบบนั้นก็จะมีโอกาสที่ผู้จ้างจะคิดว่าทำไมมาสมัครตำแหน่งนี้ ไม่เห็นว่าประสบการณ์จะเกี่ยวข้องตรงไหน


สิ่งที่ควรจะเป็น พยายามเขียน Resume ใหม่โดยปรับเนื้อหา การอธิบายทักษะ การแนะนำตัวเบื้องต้นให้สอดคล้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร เช่นถ้าเป็นสายงานการตลาด ก็ต้องพยายามโยงให้เห็นว่าประสบการณ์ที่ทำมานั้นมีอะไรที่สอดคล้องหรือเป็นทักษะที่เชื่อมมายังการตลาดได้บ้าง ไม่ใช่พูดลอย ๆ ว่าทำงานอะไรมาแล้วโดยที่ไม่เกี่ยวกับการตลาดเลย


4. ไม่พยายามชูจุดแข็ง จุดที่โดดเด่น

ผู้สมัครหลายคนมักระบุแค่ว่าประสบการณ์ทำงานที่ไหนมา เป็นเวลาเท่าไร เรียนจบที่ไหนมา แต่ไม่ได้อธิบายหรือชูประเด็นได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ได้รับจากงานนั้น ผลงานคืออะไร มันช่วยให้คุณมีจุดเด่นตรงไหน ซึ่งพอไม่มีการระบุอะไรก็ทำให้ Resume นั้นเป็นอะไรที่กลาง ๆ ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ


สิ่งที่ควรจะเป็น มีการสรุปผลงานที่ได้ทำ ความรับผิดชอบเด่น ๆ หรือสิ่งที่สามารถเล่าได้อย่างภูมิใจในงานหรือประสบการณ์นั้น


5. อย่าใช้สเกลพลังบอกทักษะ

แม้จะดูเก๋ในเชิงออกแบบ แต่การใช้สเกลพลังหรือแถบพลังบอกความถนัดนั้นเป็นอะไรที่ไม่เข้าท่าในการสมัครงานจริง ผู้ว่าจ้างหลายคนอาจจะมองดูว่าเป็นการให้ค่าพลังที่ดูเล่นมากกว่าจะสมัครงานจริงจัง แถมการให้สเกลพลังนั้นก็เป็นอะไรที่จับต้อง พิสูจน์จริงไม่ได้เลย


สิ่งที่ควรจะเป็น หากถนัดอะไรก็บอกอธิบายไปเป็นคำพูด หรือระบุด้วยหลักฐานหรือสิ่งที่อ้างอิงได้จริง เช่นมีประกาศนียบัตร หรือผ่านผลทดสอบอะไรมาแล้วเพื่อยืนยัน


นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อผิดพลาดที่ผมเจอบ่อย ๆ แล้วแอบส่ายหน้าเวลาเห็น Resume แบบนี้ ก็เลยอยากเอามาฝากไว้สำหรับคนที่จะสมัครงานหรือน้อง ๆ ที่เพิ่งจบแล้วกำลังหางานทำอยู่ เพราะนี่อาจะจจะเป็นจุดเล็กแต่เป็นเรื่องใหญ่จนทำให้เราโดนปัดตกกันแต่ต้นนั่นเองล่ะครับ

Me_Potrait.jpg

Nuttaputch Wongreanthong

An experienced marketer with a passion for understanding and exploring the latest trends

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Instagram

Subscribe

Thanks for submitting!

bottom of page