top of page

อย่าถามหาของใหม่ ถ้าของเก่ายังทำไม่ได้ดี

เวลามีงานสัมมนาหรือข่าวฮือฮากันทีนั้น ผมก็มักจะได้ยินคนพูดกันบ่อยๆ ประเภทว่า “Podcast กำลังมา ต้องรีบทำแล้ว” ไม่ก็ “ต้องไปทำวีดีโอมากขึ้นแล้ว เทรนด์มันบอก” แล้วหลายคนก็จะมาถามผมว่าควรทำนั้นดีไหม ควรมีอันนี้หรือเปล่า

หนึ่งในคำแนะนำที่ผมมักถามเวลามีคนมาปรึกษาเรื่องเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามาในตลาดก็คือสิ่งที่เป็นหัวเรื่องของบล็อกนี้แหละครับ เพราะการเอาแต่กระโจนหรือวิ่งไล่ตามเทรนด์โดยไม่ลืมหูลืมตานั้น อาจจะกลายเป็นปัญหามากมายหรือกลายเป็นจุดที่ทำให้ล้มกันได้เลยทีเดียว

จะทำอะไรแล้ว พื้นฐานต้องแน่นเสียก่อน

แนวคิดสำคัญของผมอย่างหนึ่งในการทำงานอะไรก็ตาม คือการที่เราต้องมองเรื่องพื้นฐานของสิ่งนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำธุรกิจ การลงโฆษณา การทำคอนเทนต์ ฯลฯ แล้วพยายามโฟกัสกับพื้นฐานต่างๆ นั้นให้แข็งแรงที่สุดก่อนเสมอ

ที่กล่าวเช่นนี้เพราะหากรากฐานต่างๆ ของสิ่งที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์หลัก การวางโครงสร้างสำคัญของการตลาด การคิดแกนกลางคอนเทนต์ ฯลฯ ถ้าหากเราวางไว้อย่างแข็งแรงแล้ว มันจะสามารถกลายเป็นฐานให้คนทำงานไม่แกว่งหรือไร้ทิศทางเมื่อต้องเดินไปข้างหน้า เช่นเดียวกับการต่อยอดต่างๆ นั้นก็จะเกิดบนพื้นฐานที่วางไว้ดีแล้วนั่นเอง

เมื่อเป็นเช่นนี้ เมื่อมีสิ่งใหม่เข้ามา จึงเป็นลักษณะของการ “ต่อยอด” หรือ “เสริมทับ” ไม่ใช่การ “งอก” หรือ “แตกออกไป” ซึ่งอาจจะไม่ได้สัมพันธ์หรือส่งเสริมกับสิ่งที่กำลังทำอยู่เลยก็ได้ (และจะกลายเป็นภาระมากมายตามมาในภายหลัง)

การแก้ไขและขันน๊อตเดิมให้แน่นก่อน

หลายคนมักจะตื่นเต้นและพยายามหาโน่นหานี่มาเสริมให้กับธุรกิจของตัวเองโดยไม่ได้มองว่าที่เอาเข้ามานั้นจะแก้ปัญหาเดิมที่มีอยู่ได้หรือไม่ (แถมจะกลายเป็นสร้างปัญหาเพิ่มเสียมากกว่า)

พอเป็นเช่นนี้ ผมจึงมักแนะนำให้หลายๆ ธุรกิจกลับไปดูกันเสียก่อนว่าในงานที่ทำอยู่นั้น มีอะไรบกพร่อง มีอะไรที่เรายังทำไม่ได้ดี ยังไม่ได้ประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ แล้วดูเสียว่าจะแก้ไขได้อย่างไร จะหยุดความผิดพลาดที่มีอยู่ได้ไหม จะให้ความผิดพลาดหรือการสิ้นเปลืองลดลงได้ด้วยวิธีการใด

ที่เราบอกว่าเรื่องที่ทำอยู่นั้น ก็มีหลากหลายมากมายซึ่งเราสามารถดูในรายละเอียดได้อีกมากโข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสต๊อคสินค้า การจ่ายเงิน การทำบัญชี การทำคอนเทนต์ การลงโฆษณา ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆ อย่างนั้นสามารถแก้ไขได้ด้วย “วิธีคิด” หรือ “การลงมือทำ” โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องมือหรือหาอะไรใหม่ๆ มาเพิ่มแต่อย่างใดด้วย

ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องใช้เครื่องมือใหม่ๆ นั้น ก็ขอให้เครื่องมือดังกล่าวเข้ามาแก้ไขปัญหาเดิมที่มีอยู่เสียก่อน เพราะถ้าหากเครื่องมือทำอะไรได้เยอะจริงแต่ยังแก้ปัญหาเดิมไม่ได้แล้ว ก็เท่ากับว่าปัญหายังคงค้างคากันต่อไป

ของใหม่ก็ต้องมอง แต่อย่าลืมของที่มีอยู่

พูดมาถึงตรงนี้ ไม่ใช่ว่าผมจะให้ปฏิเสธเทรนด์หรือกระแสอะไรหรอกนะครับ อันที่จริงแล้วธุรกิจต่างๆ ก็ต้องเรียนรู้และอัปเดตอะไรใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ ว่าธุรกิจเราจะต้องปรับตัวอย่างไรกันต่อไป แต่เราก็ต้องไม่ลืมว่าธุรกิจเดิมของเรานั้นก็มีสิ่งที่ต้องบริหารจัดการต่อไปด้วย การเติมของใหม่เขามาเรื่อยๆ นั้นก็ล้วนเพิ่มต้นทุน เพิ่มงานต่างๆ เข้ามาให้กับคนทำงาน ซึ่งก็มันต้องมาบาล๊านซ์ด้วยว่ามันจะไม่กลายเป็นปัญหาใช่หรือไม่ การเพิ่มของใหม่มานั้นจะได้ประสิทธิภาพและคุ้มกว่าเดิมจริงหรือไม่ เป็นต้น

Me_Potrait.jpg

Nuttaputch Wongreanthong

An experienced marketer with a passion for understanding and exploring the latest trends

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Instagram

Subscribe

Thanks for submitting!

bottom of page