top of page

เตลิดไปกับเสรีภาพ

ยุคนี้มันยุคของเสรีภาพ!!

ฟังดูคุ้นๆ หูกันใช่ไหมครับ กับคำพูดที่หลายคนหยิบมาเป็นคำพูดประกอบการแสดงความคิดเห็น หรือการแสดงออกต่างๆ ในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งจะว่าไปมันก็อยู่บนพื้นฐานปรัชญาความเชื่อที่ว่ามนุษย์นั้นมีเสรีภาพทั้งด้านความคิดและการกระทำ

ฟังดูมันสวยงามจริงๆ เชียว เพราะนั่นทำให้เราได้มีโอกาสสร้างสรรค์และท้าทายขอบเขตข้อจำกัดเดิมๆ ที่เรามองว่ามันเป็นกรอบจำกัดตัวเราไว้

แม้แต่ตัวผมเองก็ตาม ผมก็ยังมักบอกน้องๆ ที่ทำงานด้วยบ่อยๆ ว่า “คิดกันแบบเสรีเต็มที่นะ ไม่ต้องยึดติดกับกรอบเดิมๆ” มันเลยเป็นเหมือนคำพูดคิดปากพวกเราไปแล้วเวลาที่ต้องทำงานสร้างสรรค์ หรือต้องการให้คนได้มีโอกาสมากกว่าสมัยก่อน

ในขณะเดียวกัน การมีอิสรภาพที่จะคิด เลยทำให้เราสนุกที่จะคิด และรู้สึกว่าชีวิตก็ดูมีสีสันกว่าเดิมอยู่ไม่น้อย เราสนุกกับการตั้งคำถามแปลกๆ หรือหามุมมองใหม่ๆ ให้กับตัวเองอยู่เรื่อยๆ

เรียกว่าความคิดได้สร้างสรรค์ให้ชีวิตเรามีอะไรมากกว่าแต่ก่อนเยอะทีเดียว

แต่ผมก็คงอดสงสัยไม่ได้ว่าเสรีภาพที่ว่านั้นมันสุดโต่งและสวยงามแบบที่หลายๆ คนชื่นชมมันจริงหรือไม่ เพราะทุกวันนี้เราก็เริ่มเจอคนที่อ้าง “เสรีภาพ” และได้ทำอะไรบางอย่างที่ก้าวข้ามเส้นความเหมาะสมเดิมๆ ออกไปเรื่อยๆ

เราเริ่มเห็นการใช้วาจารุนแรง การแสดงความคิดเห็นแบบสุดโต่ง ดิบกร้าน ฯลฯ ทั้งหมดนี้ล้วนมาพร้อมกับคำพูดว่า “เสรีภาพ”

เสรีภาพให้สิทธิ์และอำนาจกับคนมากขนาดนั้นเลยหรือ?

ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า เสรีภาพที่เราอ้างกันนั้น อยู่เหนือทุกอย่างตามที่หลายๆ คนชอบกล่าวอ้างกันไหม เพราะเขาก็มักพูดกันว่าเสรีภาพไม่มีผิดไม่มีถูก มีแต่การให้สิทธิ์เพื่อที่จะสามารถกระทำอะไรก็ได้

จริงหรือที่เสรีภาพอยู่เหนือกฏหมาย อยู่เหนือความถูกต้อง?

ถ้าเราทุกคนคิดอยู่บนพื้นฐานนี้โดยไม่สนว่าคนอื่นๆ ในสังคมจะเป็นอย่างไรจากเสรีภาพของเรา ถ้าเราคิดแต่ว่าตัวเองต้องได้เสรีภาพ ตัวเองต้องมีสิทธิ์อย่างโน้นอย่างนี้ สังคมควรจะให้เสรีภาพกับเราจริงๆ หรือเปล่า? ถ้าเสรีภาพที่ให้ไปเกิดการทำร้ายกลับมาที่สังคมเอง เราจะยังอยากให้เสรีภาพต่อไปไหม

ถ้าสังคมให้เสรีภาพในการพกปืน แล้วเกิดวันหนึ่งปืนลั่นเปรี้ยงปร้าง มีคนตาย มีคนบาดเจ็บ เราจะยังให้เสรีภาพในการพกปืนต่อไปหรือไม่

ถ้าเรามีอิสระที่จะพูดจาอย่างไรก็ได้ จะหยาบคาย ประชดประชัน เสียดสี นินทาใครต่อใครในที่สาธารณะก็ได้ เพราะมันก็ไม่ได้ผิดกฏหมายข้อไหน แต่ข้อมูลดังกล่าวทำให้อีกคนรู้สึกถูกรังแก เอารัดเอาเปรียบ ล่วงล้ำ และก่อกวน แต่ไม่สามารถเอาผิดทางกฏหมายได้ เสรีภาพแบบนี้ควรมีต่อไปหรือไม่

ท้ายที่สุดแล้ว ผมว่าเราอาจจะต้องถามกันว่าเสรีภาพมีจุดยืนอยู่ตรงไหน อยู่พ่วงและควบคู่กับอะไร

บางทีเสรีภาพอาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่สวยงามและคงอยู่ได้หากอยู่อย่างโดดเดี่ยว มันอาจจะต้องควบคู่ไปกับสิ่งอื่นๆ ที่มาประกอบกันด้วย

และถ้าเป็นอย่างนั้น คนที่กล่าวอ้างเสรีภาพ ก็คงจำเป็นจะต้องกล่าวอ้างสิ่งที่มาควบคู่ด้วย ไม่ใช่กล่าวอ้างแต่เสรีภาพอย่างเดียวชนิดไม่ลืมหูลืมตากัน

Me_Potrait.jpg

Nuttaputch Wongreanthong

An experienced marketer with a passion for understanding and exploring the latest trends

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Instagram

Subscribe

Thanks for submitting!

bottom of page