top of page

เรื่องน่าคิดจากความสำเร็จของน้องเมย์ รัชนก ที่ผมอ่านเจอใน FWD บน LINE

เรื่องราวความสำเร็จของน้องเมย์ รัชนกกับการคว้าแชมป์แบดมินตันติดต่อกันและขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกคงเป็นหนึ่งในข่าวดีรับปีใหม่ไทยที่คนไทยจำนวนมากคงร่วมยินดีไปกับเธอ แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือการที่เราได้รับทราบประวัติของน้องเมย์อย่างมากขึ้นกว่าเดิม

ระหว่างวันนี้ ผมก็ได้ FWD ข้อความบน LINE จากพี่ที่รู้จักเรื่อง 10 สิ่งที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับน้องเมย์ โดย 10 ข้อนี้ก็ว่ากันไปเรื่องเกร็ดชีวิตตามปรกติ แต่มีข้อหนึ่งที่ผมอ่านและให้ความสนใจมากๆ

4. โค้ชเซี๊ยะ จือหัว ซึ่งเป็นชาวจีน และฝึกสอนอยู่ที่โรงเรียนบ้านทองหยอดมากว่า 20 ปี เผยว่า กว่าน้องเมย์ จะมาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่แค่เรื่องพรสวรรค์ แต่เป็นการฝึกฝนอย่างหนัก โดยเธอต้องใช้ชีวิตฝึกซ้อมแบดอยู่ที่โรงยิมตลอด 356 วัน ไม่มีวันหยุด โดยซ้อมหนักสุด 7 ชั่วโมง และน้อยสุด 3 ชั่วโมงต่อวัน ควบคู่ไปกับการเรียน เช่นนี้ทุกวัน นับตั้งแต่อายุ 6 ปี

ผมไม่รู้ว่าข้อมูลนี้จริงแค่ไหน (ข้อมูลนี้เช็คแล้วว่ามาจากบทความ 10 เรื่อง (ไม่) ลับเฉพาะกับ ‘ซุปเปอร์เมย์’ รัชนก อินทนนท์ จาก Thairath Online ) แต่เนื้อหาข้อนี้ถือว่าน่าสนใจทีเดียว

ที่บอกว่าน่าสนใจเพราะคำพูดที่บอกว่าความสำเร็จของคนไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์อย่างเดียว แต่มันคือเรื่องการฝึกฝน และจากเรื่องราวที่ระบุไว้นั้น จะเห็นว่าชีวิตของน้องเมย์เต็มไปด้วยการฝึกประหนึ่งว่าแบดมินตันคือชีวิตของเธอ

เรื่องนี้น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีและตรงกับที่คนเก่งหลายๆ คนมักจะเตือนคนที่อยากได้ความสำเร็จเสมอว่ามันต้องแลกมากับอะไรหลายๆ อย่าง เพราะต่อให้มีพรสวรรค์แต่ไม่ลงมือทำมันก็ย่อมไม่เกิดผล คนที่ทำงานเก่ง มีความรู้เยอะ ก็ยังต้องลงมือทำอะไรอีกมากมาย

ในประสบการณ์ของผม คนเก่งๆ รวมถึงอาจารย์ที่ผมรู้จักนั้นล้วนมีพรสวรรค์บางอย่าง แต่ที่น่าทึ่งกว่าพรสวรรค์คือเรื่องราวของการพยายามทุ่มเทอย่างสุดขีดเพื่อลับพรสวรรค์นั้นให้แหลมคมยิ่งขึ้น หรือไม่ก็ใช้พรสวรรค์นั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด

คนบางคนมีพรสวรรค์ด้านการอ่านหนังสือ อ่านหนังสือเร็ว รักการอ่าน แต่ถ้าเขาลำพองและไม่อ่านหนังสือ ไม่ได้ใชพรสวรรค์นั้น เขาก็ย่อมไม่รู้หนังสืออยู่ดี แต่ถ้าเขาใช้พรสวรรค์นั้นอย่างเต็มที่ เขาก็จะกลายเป็นคนที่รู้อะไรมากกว่าและเร็วกว่าคนอื่นๆ

ทุกคนล้วนอยากประสบความสำเร็จ ใครๆ ก็อยากได้ศักยภาพที่มากขึ้น แต่ใครบ้างล่ะที่จะยอม “เหนื่อย” และ “ลำบาก” เพื่อแลกกับความสำเร็จนั้น

ผมชื่นชมกับความสำเร็จน้องเมย์ แต่ที่ผมชื่นชมกว่าคือน้องเมย์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราเขายืนหยัดและพยายามอยู่บนเป้าหมายที่ตัวเองตั้งใจมาโดยตลอด

หมายเหตุ: ขอแก้ไขบทความบางส่วนเพื่อให้ถูกต้องและชัดเจนมากขึ้นนะครับ เพราะน้องเมย์ได้แชมป์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ใช่เพิ่งได้แชมป์กันวันนี้นะฮะ ^^” และขอบคุณการทักท้วงเรื่องข้อมูลต่างๆ จากหลังไมค์ด้วยครับ

Me_Potrait.jpg

Nuttaputch Wongreanthong

An experienced marketer with a passion for understanding and exploring the latest trends

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Instagram

Subscribe

Thanks for submitting!

bottom of page