top of page

เลือกเพื่อน เลือกชีวิต

สองวันนี้มีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมคิดถึงเรื่อง “เพื่อน” อยู่ไม่น้อย

วันก่อน น้องสาวผมคนหนึ่งมาปรึกษาเรื่องปัญหาความสัมพันธ์ เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นคนที่ไม่ค่อยดีและไม่น่าคบเสียเท่าไร ผมแนะนำอย่างไม่ต้องคิดว่า “อย่ายุ่ง” เพราะผมเชื่อว่าเราไม่ควรยุ่งกับเรื่องไม่ดีตั้งแต่ต้น (และมีคนดีๆ อยู่ข้างนอกอีกมากมาย) แต่ก็นั่นแหละที่ทำให้ผมคิดว่าถ้าเป็นคนอื่นๆ ที่ทัศนคติรักสนุกอาจจะแนะนำน้องสาวผมอีกแบบว่า “ลองคบเล่นๆ ฆ่าเวลาไปเหอะ ไม่เห็นเสียหาย” เพราะสำหรับพวกเขา เรื่องพวกนี้อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาและไม่เห็นเป็นปัญหาอะไร

อีกเรื่องหนึ่งคือผมนั่งดูอัพเดทชีวิตของเพื่อนๆ บน Facebook แล้วไปเจอเพื่อนคนหนึ่งซึ่งแต่ก่อนเป็นคนเรียบร้อย เงียบๆ ดูน่าคบหา แต่พอมาวันนี้กลายเป็นคนหน้าเนื้อใจเสือ คือหน้ายังดูสุภาพเหมือนเดิม แต่เผลอเป็นต้องจิกกัดคนอื่น พิมพ์อัพเดทด้วยวาจาประชดประชัน กระแนะกระแหนคนอื่นต่างๆ นานาจนผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขาเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร (และทำไม) จนกระทั่งไปเจอรูปถ่ายเขากับเพื่อนๆ กลุ่มปัจจุบัน เลยทำให้ผมถึงบางอ้อ เพราะเพื่อนๆ เขาแต่ละคนก็มีนิสัยแบบที่กล่าวมาข้างต้นนี่แหละ

คบคนพาล พาลไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล

สุภาษิตไทยข้างต้นเป็นสิ่งที่เราคงท่องกันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถมและได้ยินกันมาสม่ำเสมอซึ่งมันก็เป็นเหมือนคำเตือนใจสำหรับหลายๆ คนที่จะเลือกคบเพื่อนในชีวิต เพราะเพื่อนนั้นมีส่วนสำคัญมากในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา ประหนึ่งว่าเขาคืออีกคนที่กำหนดเส้นทางชีวิตของเราเลยก็ว่าได้

ในชีวิตของผม ผมก็มีเพื่อนหลายกลุ่ม หลายไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป โดยจะว่าไปแล้ว ถ้าผมมองย้อนกลับไป มันก็ทำให้ผมเห็นว่าเพื่อนมีส่วนสำคัญกับชีวิตผมพอสมควรเลยทีเดียว เพราะช่วงไหนที่เพื่อนกลุ่มผมชอบเที่ยว ผมก็จะติดสอยห้อยตามไปเที่ยวด้วย ถ้าเพื่อนชอบสังสรรค์ เราก็จะเฮโลสังสรรค์ไปด้วย

พฤติกรรมการเข้าสังคมของมนุษย์ในหมู่เพื่อนนี่เอง ที่ทำให้แต่ละคนค่อยๆ ถูกกลืนด้วยพฤติกรรมหมู่จนกลายเป็นนิสัยและบุคลิกของตัวเองไม่มากก็น้อย ถ้าเพื่อนในกลุ่มเราชอบคุยประเด็นไหน เราก็จะค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองให้ฟัง เห็นชอบ และร่วมคุยกันในประเด็นนั้นไปในไม่ช้า ถ้าเพื่อนชอบวิจารณ์โน่นนี่ ไม่ช้าเราก็จะชอบวิจารณ์ตามไป ถ้าวงสนทนาชอบถกกันเรื่องซีเรียส เราก็จะเริ่มกลายเป็นคนที่คิดอะไรลึกซึ้งและซีเรียสตามไปโดยปริยาย เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นโดยที่เราอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวมาตลอดชีวิตของเรานี่แหละ

สิ่งที่น่าสนใจคือพฤติกรรมหมู่ที่ค่อยๆ กลืนเรานี่เองที่อาจจะสะท้อนสิ่งที่สุภาษิตพยายามบอกเรา เพราะถ้าเราเลือกกลุ่มที่ถูก กลุ่มของคนดีแล้ว ทัศนคติและความคิดที่ดีก็จะถูกถ่ายทอดให้กับเรา เราเองก็จะปรับตัวเองเข้าหาแนวคิดเหล่านั้น แต่ถ้าเราเลือกกลุ่มผิด เราก็จะถูกกลืนในทางเดียวกันจากความคิดผิดๆ

แต่ก่อนผมก็เคยยกมือค้านว่าเราน่ารู้ตัวและเบรกตัวเองได้ก่อนที่ความคิดผิดๆ จะถูกแทรกซึมเข้าตัวเรา แต่แท้จริงแล้วผมพบว่ามันเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิดเลยทีเดียว ทั้งนี้เพราะแม้ว่าเราจะรู้ตัวเองว่าอะไรถูกและอะไรดีแล้ว แต่พฤติกรรมหมู่ของ “กลุ่มเพื่อน” ก็ไม่ต่างจากการสร้างบรรทัดฐานของสังคมย่อยๆ ขึ้นมา ซึ่งเมื่อเราเข้าสังคมนั้นแล้ว เราก็จะค่อยๆ ยอมรับบรรทัดฐานนั้นจนกลายเป็นเรื่องปรกติไป เช่นแม้ว่าเราจะมองว่าการพูดจานินทาและกระแนะกระแหนเป็นสิ่งไม่ดีแล้ว แต่เมื่อเพื่อนๆ ในกลุ่มเราทำกันหมดจนเป็นปรกตินิสัย เมื่อเรารู้สึกร่วมเป็นหนึ่งกับกลุ่มแล้ว เราก็จะรู้สึกว่าการทำแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเพราะคนที่เราสนิทก็ยังทำด้วยเลย การกระทำที่เราเคยคิดว่าจะทำให้ถูกมองว่าแปลกแยกหรือถูกต่อต้านกลับกลายเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เราเลยลืมกฏข้อห้ามที่เคยกดแรงขับเหล่านี้เอาไว้เสียหมด

มันเลยไม่แปลกที่เรามักจะเจอคนดีที่มีอนาคตหลายคน พอเข้าไปคบกับคนบางกลุ่มแล้วมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป บ้างก็พลิกหน้าเป็นหลังมือเลยก็มี

เพื่อนมีส่วนสำคัญมากกับเราเพราะพวกเขาคือกลุ่มคนที่ทำให้เรารู้สึกว่ามีคนหนุนหลัง มีคนเห็นด้วย และมีคนยอมรับ ในอีกมุมหนึ่งนั้น พวกเขาก็เหมือนกรรมการตัดสินให้คะแนนชีวิตเราอยู่เหมือนกัน เพราะลึกๆ แล้ว คนเราก็มีความเกรงกลัวที่จะไม่ถูกยอมรับจากเพื่อน หวั่นที่ตัวเองจะถูกบอยคอตหรือกลายเป็นตัดแปลกแยกจากสังคม ฉะนั้นแล้วเราจึงพยายามทำหลายๆ อย่างเพื่อให้คนในกลุ่มยอมรับเราให้ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ถ้าเราเลือกกรรมการตัดสินชีวิตเราเป็นกลุ่มคนที่มีบรรทัดฐานไม่ดีแล้ว ชีวิตของเราก็ย่อมวิ่งไปตามบรรทัดฐานไม่ดีเหล่านั้น ถ้าเลือกกรรมการดีๆ เราก็ย่อมมีแนวทางชีวิตที่ดี

พุทธศาสนาสอนเราเสมอให้เลือกมิตรที่ดี เพราะมิตรที่ดีคือคนที่จะพาเราไปสู่ความเจริญ มิตรที่ดีไม่ใช่แค่ชักชวนเราให้ทำอะไรเท่านั้น แต่ยังคอยตักเตือนเราเวลาที่ทำอะไรไม่ดีหรือไม่เหมาะควรด้วย ซึ่งก็คงต้องอาศัยปัญญา พร้อมกับบุญวาสนาของแต่ละคนด้วยกระมัง ว่าจะได้เจอมิตรแบบไหนกัน

ถ้าวันนี้คุณเจอมิตรดี ก็รักษาและอยู่กับเขาไว้ เพราะถ้าเสียไป คุณก็อาจจะเสียโอกาสดีๆ ในชีวิตไปอีกเยอะเลยทีเดียวเชียวล่ะ

ภาพประกอบซื้อและดาว์นโหลดอย่างถูกต้องจาก Shutterstock

Me_Potrait.jpg

Nuttaputch Wongreanthong

An experienced marketer with a passion for understanding and exploring the latest trends

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Instagram

Subscribe

Thanks for submitting!

bottom of page